วันพุธที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2553

Chanel กับประวัติที่ด่างพร้อยของ Coco chanel และการสิ้นชื่อเมื่อมาทำแบรนด์เครื่องสำอาง

ประวัติ Chanel

บทความต่อไปนี้ ดิฉันเขียนขึ้นด้วยข้อมูลบนพื้นฐานของความจริง ทั้งนี้ดิฉันไม่อยากให้คุณเชื่อค่ะ แต่ดิฉันจะให้ลองไปพิสูจน์จากการหาข้อมูลภายนอกดูค่ะ ว่าจะตรงกับของดิฉันหรือไม่ ทั้งนี้หากสิ่งที่ดิฉันเขียนมาดังกล่าวกระทบใคร กลุ่มใด หรือทำให้ใคร กลุ่มใดไม่สบายใจ ดิฉันขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ





Coco chanel น้ำหอมชื่อดังที่หลายๆคนรู้จัก ปรากฏว่าเป็นชื่อคนที่ก่อตั้งแบรนด์นี้จริงๆค่ะ ประวัติของเธอโชกโชนมาก (โดยเฉพาะเรื่องผู้ชาย) เธอได้ใช้เสน่ห์ของตัวเองในการไต่เต้าขึ้นสู่จุดสูงสุดของชีวิต


Coco chanel


ชาแนลเกิดที่เมือง Saumur ประเทศฝรั่งเศส เธอเป็นลูกสาวคนที่สอง จากพี่น้องทั้งห้าคนของ Albert Chanel และ Jeanne Devolle พ่อของเธอ Albert Chanelเป็นเจ้าของอผงลอยในตลาด ส่วนแม่ของเธอทำอาชีพซักรีด ชาแนลเกิดมาในครอบครัวที่ค่อนข้างยากจน

ในปี 1895 เมื่อเธอมีอายุได้ 12 ขวบ แม่ของเธอป่วยตายด้วยวัณโรค ส่วนพ่อของเธอก็หนีออกจากบ้านไปไม่รับผิดชอบ ดังนั้นเธอและพี่น้องทั้งหมดจึงต้องอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าของโบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิกที่ Aubazine และที่นี่เธอได้เรียนรู้วิธีการเย็บผ้า

เมื่อชาแนลอายุได้ 18 ปี เธอได้ออกจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ามาคนเดียว และมาทำงานเป็นนักร้องในคลับทั้งสอง ได้แก่ Vichy และ Moulins ที่นี่เธอได้ใช้ชื่อเธอว่า “Coco” ตั้งแต่นั้นมา


ประวัติที่ด่างพร้อยของ Coco chanel

ที่ Moulins เธอได้พบรักครั้งแรก Balsan lavished ซึ่งเขาเป็นทายาทโรงงานทอผ้า มีฐานะร่ำรวย แต่ติดที่เขามีภรรยาแล้ว ด้วยความทะเยอทะยานของเธอ ชาแนลตกลงเป็นภรรยาลับ เนื่องจาก Balsan lavished มีฐานะร่ำรวยมาก เธอจึงมีชีวิตที่สุขสบาย ในระหว่างนี้เธอเริ่มออกแบบหมวก และทำเป็นงานอดิเรก




Chanel และ Balsan lavished


ในปี 1909 ชาแนลพบรักครั้งใหม่กับเพื่อนของสามี คือกัปตัน Arthur Edward (Boy) Capel กัปตัน Capel มีฐานะร่ำรวยมากเช่นกัน และแน่นอนว่าเธอตกลงเป็นภรรยาลับอีกครั้ง กัปตัน Capel ลงทุนสร้างร้านเสื้อผ้าให้กับชาแนล




Coco chanel และ Arthur Edward


ในปี 1910 ชาแนลกลายเป็นช่างตัดเสื้อที่ได้รับใบอนุญาต และเธอได้เปิดห้องเสื้อของเธอที่ 21 rue Cambon กรุงปารีส เป็นครั้งแรก โดยใช้ชื่อของเธอ “Chanel” เป็นชื่อร้าน

ปี 1913 เธอได้ตั้งร้านตัดเสื้อของเธออีกร้านที่ Deauville ที่นี่เธอนำเสนอเสื้อผ้าแนวพักผ่อนลำลองและกีฬา และปีนี้เองเธอผันตัวเองมาเป็นนักดีไซน์เนอร์อย่างเต็มตัว

ปี 1915 เธอนำเสนอเสื้อผ้าแนวหลวมๆ สบาย

ต่อมาชาแนลพบรักครั้งใหม่อีกกับขุนนางอังกฤษ ในปี1918 แต่เป็นที่น่าเสียดายเขาเสียชีวิตในอุบัติเหตุรถยนต์ในปี 1919

ปี 1919 ชาแนลได้จดทะเบียนเป็น couturiere และก่อตั้งร้านขึ้นมาอีกคือ Maison de couture ที่ 31 rue Cambon




ร้าน Chanel ที่ 31 rue Cambon


ด้วยประวัติที่เป็นคนยากจน เมื่อเสียชีวิต และถูกพ่อทิ้ง ชาแนลได้สร้างประวัติเท็จของตัวเองขึ้น และบอกว่าเธออายุน้อยกว่าความเป็นจริง 10 ปี ว่าเธอเกิดเมื่อปี 1893 ซึ่งแท้ที่จริงเธอเกิดตั้งแต่ปี 1883 ดังนั้นเธอจึงบอกว่าเธอถูกพ่อทิ้งไปเมื่อเธออายุได้เพียง 2 ขวบเท่านั้น และหลังจากนั้นเธอและพี่น้องถูกส่งไปเลี้ยงโดยป้าสุดโหดของเธอทั้งสอง

ต่อมาในปี 1920 เธอได้รับการแนะนำให้ร่วมงานกับ Igor Stravinsky ที่มีชื่อเสียงระดับโลก เธอและ Igor Stravinsky มีข่าวว่ามีความสัมพันธ์กันกระฉ่อนดังไปทั่ว




Igor Stravinsky


ในปี 1925 ชาแนลได้รู้จักและสนิทสนมกับ Vera Bate Lombardi เธอคนนี้เป็นลูกนอกสมรสของขุนนางระดับ Marquess of Cambridge เธอจึงได้แนะนำชาแนลให้รู้จักกับคนในราชวงศ์อังกฤษ โดยเฉพาะลุงของเธอซึ่งเป็นดยุคแห่งเวสต์มินส์เตอร์ และลูกพี่ลูกน้องของเธอ ดยุคแห่งวินด์เซอร์ และแน่นอนว่าชาแนลมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับคนระดับสูงเหล่านี้




Chanel และเพื่อนรัก Vera Bate Lombardi


ในปี 1927 ชาแนลได้สร้าง Villa La Pausa ใน Roquebrune ฝรั่งเศส โดยเธอได้รับแรงบันดาลใจจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่เธอเคยอยู่

ในปี 1939 สมัยต้นสงครามโลกครั้งที่ 2 แฟชั่นไม่ได้รับความนิยมจากกระแสสงคราม เธอจึงปิดร้านทุกอย่างกว่า 30 ปี ช่วงนี้เธอมีข่าวสัมพันธ์กับ Hans Gunther von Dincklage ผู้สืบราชการลับนาซี เธอได้ช่วยกลุ่มนาซีโดยผ่านเพื่อนสนิทเชื้อพระวงศ์ของเธอ Vera Bate Lombardi




Chanel และ Hans Gunther von Dincklage (คนขวา)


ในปี 1945 เธอย้ายไปอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์ และกลับมายังปารีส เพื่อกลับมาสู่โลกแฟชั่น หลังสงครามโลกสงบลงแล้ว ปรากฏว่าผลงานแฟชั่นของเธอคนฝรั่งเศสไม่ยอมรับ เนื่องจากเธอเคยช่วยฝ่ายนาซีไว้ในอดีต หลังจากนั้นธุรกิจด้านแฟชั่นของเธอโด่งดังอีกครั้ง โดยส่วนใหญ่เป็นลุกค้าชาวอังกฤษและอเมริกา



การสิ้นชื่อเมื่อมาทำแบรนด์เครื่องสำอาง

แน่นอนค่ะ แบรนด์ชาแนลเมื่อเป็นเสื้อผ้า และ accessory ต่างๆ ดังและมีคุณภาพสูงมาก มีดีไซน์ที่ดิฉันก็ชื่นชอบ แต่พอเมื่อขยับขยายมาทำเครื่องสำอางปุ๊ป ชาแนลสิ้นชื่อทันทีค่ะ นี่เป็นอีกครั้งหนึ่งกับการแสดงว่า การมีเงินจะขยับขยายหรือทำอะไรก็ได้ โดยสิ่งที่ทำอาจไม่ด้ใช้สมองคิดเลย



ชาแนลขายความเป็นผู้นำแฟชั่นของตัวเองจากการขายเครื่องสำอาง แน่นอนว่าราคาต้องระดับสูงด้วย ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ หากว่ากระปุกครีมมีรูปลักษณ์ที่ไฮโซ ไม่เอ้าท์ แต่ประสิทธิภาพของครีมก็ไม่ได้ทำให้คุณมีใบหน้าที่อินเทรนด์ขึ้นตรงไหน

หากการทาครีมก่อนออกจากบ้านเป็นสิ่งที่ทำกันในที่สาธารณะก็ดีอยู่หรอกค่ะ คุณสามารถโอ้อวดใครต่อใครก็ได้ ว่าคุณใช้ครีมระดับผู้นำแฟชั่น แต่มันสวนทางกับชีวิตจริงค่ะ ซึ่งก็คงจะมีแต่คนในบ้านคุณเท่านั้นที่รู้ว่าคุณทาครีมอะไร



พนักงานขายชาแนลภูมิใจในตัวเองมาก เมื่อรู้ว่าชาแนลมีจุดเริ่มต้นที่ฝรั่งเศส แต่ทว่าไม่มีเครื่องสำอางชิ้นไหนผลิตในฝรั่งเศสจริงๆเลย ผลิตภัณฑ์หลายๆตัว ธรรมดาอย่างมาก มีแต่น้ำ ตัวทำให้ข้น/ชื่น และก็สารกันเสีย ซึ่งดิฉันรู้สึกสิ้นท่าแทนคนก่อตั้งจริงๆ

ข้อดีของชาแนลมีไม่มากค่ะ บรรจุภัณฑ์ที่สวยเก๋ทันสมัย กันแดดมี avobenzone ที่กันรังสี UVA ซีรั่มมีสารบำรุงผิวในระดับที่น่าประทับใจ คลีนเซอร์และสครับค่อนข้างดีเลยทีเดียวค่ะ ส่วนข้อเสียก็ราคาที่แพงเกินไป บำรุงผิวส่วนใหญ่มีสารบำรุงเพียงฝุ่นธุลี

"จริต" ของ Chanel

จริตของแบรนด์ ดิฉันขอยกไลน์ Ultra Correction มาให้ดูกันสามสี่ตัวนะคะ จากรูปดิฉันเรียงจากซ้ายไปขวา



1. Chanel Ultra Correction Line Repair Anti Wrinkle Eye Cream
Ingredients : Aqua, Cyclopentasiloxane, Glycerin, Butylene Glycol Dicaprylate, Pentylene Glycol, Octyldodecanol, Butylene Glycol, Steareth-21, Silica, Methyl Methacrylate Crosspolymer, Alumina, Cetyl Alcohol, Glyceryl Stearate, Ammonium AcryloylDimethyl, Taurathe, Peg-75 Stearate, Dimethicone, Hidroxyethyl Acrylate/Sodiumacryloyldimethyl Taurate Copolymer, Methylparaben, Propylparaben, Chlorphenesin, Squalane, Ceteth-20, Steareth-20, Phospholipids, Psum Sativum Extract, Escin, Bis Vinyl Dimethicone/Dimethicone Copolymer, Disodium EDTA, Decarboxy Carnosine HCL, Beta-Sitosterol, Polysorbate 60, Citric Acid, Sodium Citrate, PEG_8 Sodium Hyaluronate, Carbomer, Guazuma Ulmifolia Leaf Extract, Potassium Sorbate, Propylene Glycol, Sorbitan Isostearate, Polysorbate 20, Tocopherol, Phenoxyethanol, Tin Oxide, Ascorbyl Palmitate, Sodium Methylparaben, Acetyl Tetrapeptide-5, Citrus Auratium Amara, Butylparaben, Ascorbic Acid, Ethylparaben, Palmitoyl Oligopeptide, Palmitoyl Oligopeptide, Palmitoyl Tetrapeptide-3, CI 77891

2. Chanel Ultra Correction Line Repair Intensive Anti-Wrinkle Concentrate
Ingredients : aqua(water), glycerin, butylene glycol, ppg-2 myristyl ether propionate, alcohol, isohexadecane, alumina, methyl methacrylate crosspolymer, silica, ammanium acryloyldimethytaurate/vo copolymer, parfum(fragrance), vp/dimethiconylacrylte/polyglycol ester, methylparaben, chlarphenesn, pisum sativa (pea) extract, propylene glycol, decarboxy carnosine hcl, citric acid, phenoxyethanol, tetrasodium edta, sodium citrate, bht, sodium hyaluronate, guazuma ulmifalia leaf extract, carbomer, potassium sorbate, polysarbate 20, tin oxide, ethylparaben, sodiummethylparabenpalmitoyl tetrapeptide-3, ci 14700(red 4), ci 77891(titanium dioxide)

3. Chanel Ultra Correction Lift Lifting Firming Day Fluid SPF 15
Active Ingredients : Avobenzone 3%, Octinoxate7.5%

Other Ingredients : aqua (water), glycerin, isododecane, peg/ppg/polybutylene glycol-8/5/3 glycerin, c12-15 alkyl benzoate, pentylene glycol, ppg-12/smdi copolymer, cetearyl alcohol, c20-22 alkyl phosphate, dipropylene glycol, triheptanoin, c20-22 alcohols, coco-glucoside, butylene glycol, vp/dimethiconylacrylate/polycarbamyl/polyglycol ester, oryzanol, octyldodecyl, neopentanoate, parfum (fragrance), hydroxyethyl acrylate/sodium acryloyldimethyl taurate copolymer, ammonium acryloyldimethyltaurate/vp copolymer, squalane, caprylyl glycol, methylparaben, xanthan gum, ammonium glycyrrhizate, sodium carbomer, decarboxy carnosine hcl, disodium edta, propylene glycol, polysorbate 60, canarium luzonicum gum nonvolatiles, pentaerythrityl tetra-di-t-butyl hydroxyhydrocinnamate, sodium hyaluronate, phenoxyethanol, polysorbate 20, sorbitan isostearate, bht, ethylparaben, sodium methylparaben, propylparaben, palmitoyl oligopeptide, palmitoyl tetrapeptide-7, ci 17200 (red 33)

4. Chanel Ultra Correction Lift Ultra Firming Night Cream
Ingredients : water(aqua), glycerin, cetearyl alcohol, butylene glycol, canola oil, jojoba esters, caprylic/capric triglyceride, dimethicone, ethylhexyl palmitate, octyldodecyl myristate, pentylene glycol, steareth-21, butyrospermum parkii (shea butter), hdi/trimethylol hexyllactone crosspolymer, polyglyceryl-3 beeswax,cetearyl glucoside, tocopheryl acetate, octyldodecyl neopentanoate, fragrance(parfum), methylparaben, ammonium acryloyldimethyltaurate/beheneth-25 methacrylate crosspolymer, caprylyl glycol, tamarindus indica seed polysaccharide, xanthan gum, phenoxyethanol, decarboxy carnosine hcl, propylene glycol, sodium carbomer, sodium hyaluronate, tetrasodium edta, canarium luzonicum gum nonvolatiles, silica, nyctanthes arbor-tristis leaf extract, disodium phosphate, polysorbate 20, citric acid, propylparaben, tocopherol, sodium methylparaben, butylparaben, ethylparaben, palmitoyl oligopeptide, palmitoyl tetrapeptide-3, ci 17200

ส่วนผสมธรรมดามาก เรียกได้ว่าเกือบไม่มีสารที่น่าสนใจตัวไหนเลย สารที่ใช้ประโยชน์ได้จริงๆมีน้อยเกินไป เปปไทด์ (cell-signaling substance) ดิฉันว่าอย่าไปหวังประโยชน์อะไรมากนัก นอกนั้นก็เป็นตัวทำให้ข้น/ลื่น น้ำหอม สารกันเสีย และสี

Chompoo_X-ray :D

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น